บริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)

ด้วยธุรกิจเติบโตด้วยดีมาโดยตลอด และด้วยความจำเป็นที่ต้องการลดภาระถูกหักภาษีเงินได้  ณ ที่จ่ายล่วงหน้าในอัตราร้อยละ 5 ของค่าเช่ารับ บริษัทฯจึงได้ทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1 ล้านบาท มาเป็น 60 ล้านบาท ในวันที่ 30 ธันวาคม 2536 ซึ่งทำให้บริษัทฯ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป. 34/2534ที่จะไม่ต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายของค่าเช่ารับอีกต่อไป บริษัทฯ ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนมาเป็นลำดับ และได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2538 โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ นวธนกิจ จำกัด (มหาชน) และธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2541 กระทรวงการคลังมีประกาศ เรื่อง ให้ความเห็นชอบโครงการรวมกิจการระหว่าง ธนาคารสหธนาคาร จำกัด (มหาชน) บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ กรุงไทยธนกิจ จำกัด (มหาชน) และบริษัทเงินทุน 12 บริษัท (บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ นวธนกิจ จำกัด (มหาชน) เป็น 1 ใน 12 บริษัทเงินทุนดังกล่าว)

บริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)

บริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) เดิมเป็นฝ่ายงานหนึ่งของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์นวธนกิจ จำกัด (มหาชน) โดยให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ ต่อมาเพื่อให้สามารถแข่งขันทางธุรกิจได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น จึงแยกมาจัดตั้งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ นวธนกิจ จำกัด (มหาชน) โดยจดทะเบียนครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2535 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ในนามของบริษัท ไตรมิตรสัมพันธ์ จำกัด และได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท นวลิสซิ่ง จำกัดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2535

บริษัทฯ เริ่มประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อและเช่าการเงินเป็นหลัก โดยเริ่มทำธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2535 เป็นต้นมา และมาเพิ่มธุรกิจเช่าการเงินในเดือนมีนาคม 2536 พร้อมกับเพิ่มให้เช่าซื้อสินค้าประเภทอุปกรณ์และเครื่องจักรด้วย

ซึ่งหลังจากการรวมกิจการ ได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) ทำให้ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) มาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทนบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ นวธนกิจ จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บริษัทฯดำเนินธุรกิจภายใต้การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินต่าง ๆ จนกระทั่งผู้บริหารของบริษัทฯ มีแนวความคิดเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งได้เสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก และได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และเริ่มทำการซื้อขาย  ครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2544 ในหมวดธุรกิจ “การเงิน” ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรม “เงินทุน และหลักทรัพย์” และใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “NVL

บริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)

ปี 2566

  • บริษัทฯ ได้รับการต่ออายุการรับรองจากแนวร่วมต่อต้าน การคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thai Private Sector Collective Action Against Corruption-CAC)
  • บริษัทฯ มีการขยายสาขาเพิ่มขึ้น 1 สาขา ได้แก่ สาขานนทบุรี ส่งผลให้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทฯ มีสาขาจำนวนทั้งสิ้น 47 สาขา

ปี 2565

  • บริษัทฯ ได้รับการต่ออายุรับรองแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชั่นของภาคเอกชนไทย  (Thai CAC) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565
  • บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับจากกระทรวงการคลัง และเริ่มให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ
    ตั้งแต่เดือนกันยายน 2565  

ปี 2564

บริษัทฯมีการทำบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย  ในการเป็นคู่ค้าธุรกิจหลัก (Amanah Express) หรือ AE ผ่านช่องทางสาขาของธนาคารที่มีมากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศที่พร้อมสนับสนุนด้านการแนะนำลูกค้าใหม่ให้กับบริษัทฯ

ปี 2563

บริษัทฯได้รับคัดเลือกเป็นหลักทรัพย์ที่เป็นองค์กรประกอบของดัชนี sSET  ( sSET Index) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ปี 2558

บริษัทฯได้เปิดสาขาเพิ่มเพื่อขยายช่องทางการให้บริการแก่ลูกค้า มีสาขารวมทั้งสิ้น จำนวน 47 สาขาทั้งภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เพื่ออำนวยสินเชื่อเงินด่วนสำหรับรถยนต์ใช้แล้วทั่วประเทศ

ปี 2554

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย มีส่วนช่วยส่งเสริมและสนับสนุนในการทำธุรกิจเป็นอย่างดี รวมทั้งได้ส่งกรรมการเข้าร่วมในการบริหาร พร้อมทั้งให้การสนับสนุนบริษัทฯในทุกๆ ด้าน เพื่อการปรับปรุงองค์กร และพัฒนาบริการให้มีมาตรฐานการบริการในระดับสากลสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้

ปี 2553

บริษัทฯออกหุ้นเพิ่มทุน 200 ล้านบาทให้แก่ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) นอกจากนั้น ธอท. ทำ Tender offer เสนอซื้อหุ้นอีก 265.5 ล้านบาท ส่งผลให้ ธอท.ถือหุ้นในบริษัทฯ คิดเป็นอัตราร้อยละ 49 และมีการเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) และใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “AMANAH”

ปี 2548

ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) ได้ขายหุ้นในส่วนของธนาคารแก่กลุ่มพันธ์สายเชื้อ ทำให้กลุ่มพันธ์สายเชื้อ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ หลังจากกลุ่มพันธ์สายเชื้อเข้ามาบริหารบริษัทฯ จึงเริ่มขยายสาขาของบริษัทฯ ไปยังที่ทำการแห่งใหม่ในต่างจังหวัด และเปิดจนครบ 7 แห่งในปี 2553 ทั้งนี้ ในการเปิดที่ทำการสาขาในต่างจังหวัดนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจของบริษัทฯที่มุ่งเน้นการขยายธุรกิจให้กับลูกค้ารายย่อย และขยายการบริการให้ครอบคลุมถึงลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น

ค่านิยมองค์กร Core Value

ccountability

มีความรับผิดชอบต่อสังคมและพันธกิจของบริษัท

odernization

มีความคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ

chievement

มีความมุ่งมั่นทำงานให้เป็นผลสำเร็จ

eutrality

มีความเป็นกลางไม่มีอคติในการทำงาน

daptation

มีความสามารถในการปรับตัวได้อย่างสมดุล

umanity

มีน้ำใจเมตตาช่วยเหลือเกื้อกูลและสามัคคี

วิสัยทัศน์ (Vision)

สร้างอะมานะฮ์ให้เป็นสถาบันการเงินฮาลาลที่มีมูลค่าเพิ่มจากพลังศรัทธา

พันธกิจ (Mission)

ด้านการเงิน (Financial Prospective)

แสวงหาและระดมพันธมิตรทางด้านเงินทุน เพื่อสร้างโอกาสและผลตอบแทน ที่มีมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องให้กับผู้ถือหุ้น ภายใต้หลักการเงินอิสลาม (Islamic Finance)

ด้านลูกค้า (Customer Prospective)

เป็นองค์กรธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า (Customer Centric) ด้วยคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ โดยเน้นการสร้างฐานลูกค้าที่ชื่อสัตย์ (Loyalty) ในรูปแบบการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจหรือตัวแทนการค้าอย่างสมดุล​

ด้านความสัมพันธ์อันดีระหว่างชุมชน (Community Relations Prospective)

สร้างฐานลูกค้าชุมชนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับบริษัทฯ ในรูปแบบของการเป็นหุ้นส่วนการร่วมลงทุน หรือตัวแทนทางธุรกิจตามหลักชะรีอะฮ์ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทรัพยากรระหว่างชุมชนต่อชุมชน และเป็นการผลักดันให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพโดยผ่านกลไกการบริหารจัดการของบริษัท

ด้านนวัตกรรม (Innovative Prospecttive)

พัฒนาผลิตภัณฑ์บริการ และนิติกรรมสัญญาที่ทันสมัยถูกต้องตามหลักชะรีอะฮ์ และตรงต่อความต้องการของวงจรชีวิตลูกค้า และสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของบริษัทฯ บนพื้นฐานการไม่เอาเปรียบ

ด้านกระบวนการภายใน (Internal Prospective)

บริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่โปร่งใสตรวจสอบได้ และมีความมุ่งมั่นในการต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบโดยสร้างกระบวนการปฏิบัติงานถูกต้อง รวดเร็วและแข่งขันได้

ด้านการเรียนรู้และเติบโต (Learning and Growth Prospective)

เป็นองค์กรที่มีวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้และเติบโต เสริมสร้างพนักงานให้มีความเชี่ยวชาญด้านการเงินอิสลามอย่างมืออาชีพ และมีโอกาสในการเติบโตก้าวหน้า โดยมีโครงสร้างผลตอบแทนที่ดี และเหมาะสมบนพื้นฐานหลักการเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทฯ

ติดต่อเรา

สำนักงานใหญ่

บริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 16-16/1 ซอยเกษมสันต์ 1 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพ 10330

โทร : 02 091 6456

จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์

Copyright © 2022 AMANAH LEASING PUBLIC COMPANY LIMITED

DESIGN by